วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558


ชื่อ  นางสาวปรียาภรณ์    สกุล  เพ็ชร์เจริญ    เลขที่  38    ห้อง  5/10
กลุ่มที่   2
ปัญหาที่นักเรียนศึกษา    ค่านิยมของวัยรุ่นในสังคมไทยแบบผิดๆ

ที่มาและความสำคัญของปัญหา
ปัจจุบันเยาวชนอยู่ในสังคมที่เน้นเชิงทุนนิยมและวัตถุนิยมมากขึ้น ทำให้สุขภาพจิตแย่ลง ขณะเดียวกันสังคมรากฐาน คือ ครอบครัว ซึ่งเป็นสังคมหน่วยเล็กที่สุด ก็พบว่ามีปัญหามากขึ้น เพราะพ่อ แม่เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก เครียดกับการเรียนของลูกและการสอบแข่งขันต่างๆ   ทำให้วัยรุ่นมีค่านิยมที่ผิดในทางด้านต่างๆมากมาย จึงขาดการอบรมที่ดี  มีความเชื่อและหลงไปตามกับค่านิยมที่ผิดเพราะไม่ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ดีพอ
             ดังนั้นดิฉันทำจึงได้สำรวจ  รวบรวมข้อมูล   และนำเสนอผ่านสื่อด้วยหนังสั้นแฝงแนวคิดและช่วยปลูกจิตสำนึก  เพื่อช่วยให้วัยรุ่นมีความรู้และเข้าใจในค่านิยมของสังคมมากขึ้น


วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาปัญหาค่านิยมที่ผิดของวัยรุ่นในปัจจุบัน
2.เพื่อศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการสร้างหนังสั้น


ผลการศึกษา 
          ทราบถึงปัญหาที่ทำให้ค่านิยมของวัยรุ่นเปลี่ยนไปในแบบที่ผิดๆ  ทั้งเลียนแบบดาราใช้ของราคาแพง  หรือแบรนด์เนมที่มีราคาสูง  รวมถึงการใช้สารเสพติด  การยุ่งกับสิ่งที่ผิดกฎหมายโดยไม่คำนึงถึงโทษที่จะตามมาภายหลัง    นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการค่านิยมในเรื่องเพศ  ทั้งการชิงสุกก่อนห่าม  ท้องก่อนแต่ง  เพราะอยากรู้อยากลอง  โดยมีสื่อต่างๆเป็นตัวกระตุ้น    ทำให้วัยรุ่นมีค่านิยมที่ผิดแปลกไปจากแต่ก่อนมาก  จึงได้รวบรวมข้อมูล  สอบถาจากกลุ่มเป้าหมาย  แล้วจัดทำเป็นสื่อโดยสื่อประเภทหนังสั้น   ซึ่งในการจัดทำหนังสั้นก็ได้รับความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพ  มุมกล้องต่างๆ  และโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อวิดิโอให้สามารถทำชิ้นงานที่จะนำมาเสนอนั้น  มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น


เสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
          ควรเริ่มตั้งแต่การปลูกฝังค่านิยมที่ดีจากครอบครัวเป็นอันดับแรก  เพราะครอบครัวเป็นที่อบรมพื้นฐานที่ควรให้ความสนใจในด้านต่างๆมากที่สุด  โดยจะต้องให้ความรู้กับผู้ปกครองของเด็ก  อาจจะจัดเป็นนิทรรศการแนะแนวเกี่ยวกับค่านิยมของวัยรุ่นในปัจจุบัน  เพื่อให้ผู้ปกครองมีความตระหนักในเรื่องค่านิยมที่ผิดของวัยรุ่นมากขึ้น  เมื่อเริ่มเข้าสู่สถาบันศึกษาก็จัดอบรมหรือให้ความรู้ความเข้าใจในรูปแบบของแผ่นพับ  การจัดตั้งชมรม  หรือแม้กระทั่งการจัดทำสื่อต่างๆที่ให้แง่คิด  เพราะสังคมในปัจจุบันเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะรับเอาเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต  สื่อต่างๆจึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการปลูกฝังค่านิยมของวัยรุ่นในสังคมอีกด้วย  


นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการเรียนวิชา IS1
              จากการที่ได้เรียนในรายวิชา IS1    ทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำภาพยนต์สั้น    เทคนิคและมุมกล้องต่างๆในการถ่ายทำเพื่อให้มีความหลากหลายและน่าสนใจในการนำไปทำภาพยนต์สั้นมากขึ้น    เรียนรู้วิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ  โดยเริ่มจากการศึกษาค้นคว้าข้อมูล  รวบรวม  และนำเสนอออกมาในรูปแบบของสื่อประเภทภาพยนต์สั้น    รู้จักฝึกใช้โปรแกรมต่างๆในการทำภาพยนต์  ทั้งการตัดต่อ  การทำเอฟเฟล็ก  การเก็บรายละเอียดของงานให้เรียบร้อย  การทำสตอรี่บอร์ด  เขียนบท  และอื่นๆอีกมากมาย 



วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การใช้โปรแกรมลดเสียงรบกวนจากการถ่ายวิดีโอ

มาฝึกใช้โปรแกรมลดเสียงรบกวนจากการถ่ายวีดีโออย่างง่ายๆ              
              หลังจากที่เราได้เรียนรู้วิธีการเลือกใช้ไมโครโฟนในให้เหมาะสมกับการรับถ่ายวิดีโอกันไปแล้วในบทก่อนๆ มาในบทนี้จะต่อนื่องกัน คือ หลังจากการถ่ายวีดีโอแล้วเมื่อเรานำมาเปิดดูปรากฏว่ามันยังมีเสียงรบกวนที่น่ารำคาญเกิดขึ้นอีก เช่น เรารับถ่ายวีดีโองานบรรยาย มีวิทยากรนั่งบรรยายเป็นหลัก ปรากฏว่ามีเสียงรบกวนดังจี่ๆๆ ที่เกิดจากไมโครโฟนหรือเครื่องเสียง เราสามารถใช้โปรแกรมลดเสียง noise พวกนี้ลงได้ครับ โดยตัดเสียง noise พวกนี้ออกไป แต่มันก็จะทำให้ความใสของเสียงลดน้อยลงบ้างครับ แต่ถ้าเราไปรับถ่ายวีดีโอนอกสถานที่มีพิธีกรคอยพูดแนะนำ แล้วมีเสียงรบกวนประเภทเสียงรถ เสียงคนคุยกัน แบบนี้โปรแกรมสามารถลด noise ได้ครับแต่จะทำให้คุณภาพเสียงของพิธีกรแย่ลงมากครับ แนะนำว่าควรจะมีการวางแผนถ่ายวีดีโอที่ดีและเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมจะดีกว่าการใช้โปรแกรมลดเสียงรบกวนครับ เรามาลองดูกันเลยดีกว่าครับว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง
              การรับถ่ายวีดีโองานต่างๆเราไม่สามารถเลี่ยงเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นได้ครับ เรามีวิธีป้องกันโดยการวางแผนก่อนที่จะถ่าย การเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม และการใช้โปรแกรมช่วยจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นครับ โปรแกรมที่เราจะใช้นี้มีชื่อว่า Audacity ครับที่เลือกใช้โปรแกรมนี้เพราะเป็นโปรแกรมฟรี + ใช้งานง่าย ติดตั้งง่าย + ไม่กินแรงเครื่อง + มีทั้งเวอร์ชั่นสำหรับ Windows XP, Vista, 7 สำหรับ Mac ก็สามารถใช้ได้ครับสามารถไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของเค้าเลยครับ http://audacity.sourceforge.net/download/plugins
หรือจะดาวน์โหลดที่ผมเตรียมไว้ให้แล้วครับครบทุกเวอร์ชั่นพร้อม Plugins ที่จำเป็นต้องใช้
http://www.sendspace.com/file/gji91p

วีดีโอสอนใช้โปรแกรม Audacity
แนะนำวิธีการติดตั้งครับ เผื่อพี่ๆบางท่านอาจจะไม่เข้าใจ
1. ดาวน์โหลดโปรแกรมออกมาแล้วแตกไฟล์ออกมาจะได้ตามรูปครับ
2. ให้เลือกใช้ตามประเภท OS ของเราครับในที่นี้ผมเลือก Windows XP แล้วคลิกเข้าไปดู
3. คลิกติดตั้งโปรแกรมตามรูปครับ next กับ OK ไปเรื่อยๆครับ ที่เหลือเป็นตัว Plugin ให้ติดตั้งเข้าไปด้วยครับ โดยจะติดตั้งตัวไหนก่อนก็ได้ครับ แต่ต้องติดตั้งเข้าไปในโฟลเดอร์ C:\Program Files\Audacity\Plug-Ins
สเปกของเครื่องที่ใช้รันโปรแกรมนี้ครับ (System Requirements)
ก่อนอื่นต้องขอพูดหลักการทำงานคร่าวๆของโปรแกรม Audacity นี้กันก่อนครับ โปรแกรมสามารถทำงานได้หลายอย่างครับ ไม่ว่าจะตัดเสียงรบกวน เพิ่มเสียงให้ดังหรือลดเสียงให้เบา เพิ่ม Tempo ของเสียงและอื่นๆ แต่เราจะมาเน้นที่ฟังก์ชั่นการตัดเสียงรบกวนครับ เพราะฟังก์ชั่นอื่นๆสามารถทำได้จากโปรแกรมตัดต่อทั่วไปครับ เช่น Sony Vegas, Adobe Premiere
โดยหลักการทำงานที่สำคัญ คือ โปรแกรมจะไปกำจัดเสียงที่ความถี่ที่เรากำหนด ถ้าเสียงรบกวนของเรามีความความถี่คงที่ เช่น เสียงจี่จากเครื่องเสียง จะทำให้โปรแกรมทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าเสียงรบกวนของเรามีความถี่ของเสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงที่เราต้องการในวีดีโอ เมื่อเวลาใช้โปรแกรมลดเสียงรบกวนแล้ว จะทำให้เสียงของเราหายไปด้วยครับ ผมจึงได้บอกไปว่าถ้าเป็นเสียงรบกวนประเภทเสียงรถ เสียงคนคุยกัน ซึ่งมีความถี่ของเสียงใกล้เคียงกับเสียงที่เราต้องการ จะทำให้โปรแกรมทำงานออกมาแล้วคุณภาพเสียงจะไม่ดีครับ ฟังดูแล้วอาจจะยังงงครับลองไปดูตัวอย่างกันดีกว่าครับ
1. ตัวอย่างแรกเป็นเสียงรบกวนจากการบรรยายครับ ดูจากรูปจะเห็นว่าเสียงรบกวนจะมีความถี่คงที่ ซึ่งสามารถใช้โปรแกรมลดเสียงรบกวนได้เต็มที่ครับ
2. หลังจากใช้โปรแกรมลดเสียงรบกวนลงแล้ว จะเห็นว่าแถบสีเหลืองที่เป็นเสียงรบกวนจะเปลี่ยนแปลงไป
ขั้นตอนการใช้โปรแกรม Audacity
1. นำไฟล์วีดีโอที่ได้จารถ่ายวีดีโอมาแยกเอาเฉพาะเสียงออกไปจัดการ โดยอาจจะใช้โปรแกรมตัดต่อวีดีโอทั่วไปทำการ Output ออกมาเฉพาะเสียงหรืออาจจะใช้โปรแกรมที่ผมเคยสอนไว้ในบทก่อนๆ แปลงเฉพาะเสียงออกมาใช้ โดยสามารถตรวจสอบนามสกุลของไฟล์เสียงที่ support ได้จากรูปเลยครับ
WinAVI All in One Converter 1.2.1.3985 ดาวน์โหลดได้จากที่นี่http://www.filesonic.com/file/1652108571 วิธีการใช้อยู่ที่นี่ สอนทำ Presentation แต่งงานด้วย Proshow – ใส่ Transition และการ Output ไฟล์
2. หลังจากที่ได้ไฟล์เสียงมาแล้วให้เปิดโปรแกรม Audacity ขึ้นมาพร้อมทั้งเปิดไฟล์เสียงขึ้นมา
3. ให้เราเลือกตำแหน่งที่มีเสียงรบกวนที่มีความยาวมากๆครับ เพื่อที่โปรแกรมจะได้เอาไปเป็นตัวอย่างครับ ยิ่งยาวยิ่งดีครับ เพราะโปรแกรมจะได้คำนวณค่าเสียงรบกวนได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นครับ โดยอาจใช้เคื่องมือแว่นขยาย (zoom in) ช่วยในการหาตำแหน่งครับ
4. พอหาตำแหน่งที่ต้องการได้แล้ว ให้ทำการลากคลุมดำบริเวณนั้นเลยครับ
5. จากนั้นไปที่ Toolbar แล้วเลือก Effect – Noise Removal แล้วเลือกคำว่า Get Noise Profile
6. จากนั้นกลับมายังหน้าเดิมให้กด Ctrl + A เลือกช่วงทั้งหมดในไฟล์เสียงของเรา จะเป็นการคลุมดำทั้งหมด
7. จากนั้นก็ไปที่ Toolbar แล้วเลือก Effect – Noise Removal เหมือนเดิม แต่คราวนี้ให้เราไปที่ Step 2 แล้วลองเลื่อน Slide bar ดูครับแล้วกด Preview ลองฟังเสียงที่ได้ด้วย ลองปรับตำแหน่งของ Slide bar แล้วลองฟังทีละตำแหน่งครับ จากประสบการณ์ที่ทำมาผมจะปรับ Slide bar แค่ประมาณในรูปก็พอครับ ถ้ามากกว่านั้นเสียงมันจะฟังแล้วอู้อี้ๆบอกไม่ถูกครับ เลือกตำแหน่งได้แล้วกด Remove Noise ครับ
8. เมื่อเราลดเสียงรบกวนออกไปแล้วขั้นตอนสุดท้ายคือการ Export ไฟล์ออกไปเพื่อนำไปตัดต่อในโปรแกรมตัดต่อร่วมกับไฟล์วีดีโอของเรา ในที่นี้ผมจะ Export ไฟล์ออกไปเป็น mp3 ครับ มันจะมีปัญหาเล็กน้อยครับ ลองทำตามรูปได้เลยครับ

ถ่ายวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือให้ได้คุณภาพที่สุด

ถ่ายวีดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือยังไง ให้ได้คุณภาพดีที่สุด              
              ในปัจจุบันการรับถ่ายวิดีโองานต่างๆ เราจะต้องเตรียมอุปกรณ์ในการถ่ายทำมากมาย เช่น ไฟ ขาตั้งกล้อง เลนส์ต่าง เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือก้าวหน้ามากขึ้น แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีกล้องถ่ายวีดีโอติดตัวมาพร้อมกับโทรศัพท์เลย ถ้าพูดถึงความคมชัดอาจจะสู้กล้องถ่ายวีดีโอทั่วไปไมได้ แต่ถ้าพูดถึงแง่ความสะดวกสบายในการพกพาไปยังสถานที่ต่างๆ ย่อมเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่ากล้องถ่ายวีดีโอทั่วๆไป วันนี้เราจะมาพูดถึงว่าจะมีวิธีการอย่างไรที่จะถ่ายวีดีโอจากกล้องในโทรศัพท์มือถือแล้วให้ได้คุณภาพออกมาดีที่สุด
จะเห็นได้ว่าหลักการพื้นฐานที่กล่าวมาทั้งหมดที่ใช้ในการถ่ายวีดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือให้ได้ผลดีนั้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการรับถ่ายรูปงานทั่วๆไป โดยที่เราหมั่นฝึกการถ่ายบ่อยๆก็จะทำให้เกิดทักษะความชำนาญมากยิ่งขึ้น จะทำให้ภาพที่ได้ออกมามีคุณภาพดียิ่งขึ้น

              หลักการง่ายๆในการที่จะถ่ายวีดีโอจากกล้องในมือถือให้ได้ภาพคุณภาพก็จะมาจากพื้นฐานการถ่ายวีดีโอทั่วไป ในปัจจุบันความละเอียดของวีดีโอที่ได้จากกล้องถ่ายวีดีโอในมือถือมีค่าใกล้เคียงหรือมากกว่ากล้องถ่ายวีดีโอทั่วๆไปแล้ว เพียงแค่เราประยุกต์ใช้หลักการพื้นฐานการถ่ายวีดีโอกับกล้องในมือถือ เราก็จะสามารถได้วีดีโอที่มีคุณภาพดีได้ เรามาลองดูกันว่ามีหลักพื้นฐานอะไรบ้าง
1. หาแสงช่วยในฉาก
กล้องถ่ายวีดีโอทั่วๆไปจะมีระบบควบคุมแสงแบบอัตโนมัติ ส่วนกล้องวีดีโอในมือถือจะมีเพียงระบบการทำงานพื้นฐาน มีข้อแนะนำเรื่องแสง ดังนี้
- เวลาถ่ายวีดีโอพยายามให้ดวงอาทิตย์อยู่ข้างหลังเราเพื่อหลีกเลี่ยง Glare
- หลีกเลี่ยงสถานที่มีแสงสว่างน้อย อาจจะหาตำแหน่งที่มีแสงไฟช่วย เช่น บริเวณริมหน้าต่าง ไม่เช่นนั้นวีดีโอที่ได้จะเกิด noise มาก
- หลีกเลี่ยงการถ่ายวีดีโอในที่แดดจัด เพราะหน้าจอ LCD ของมือถือเราจะมองไม่ค่อยเห็น ทำให้เราไม่สามารถกำหนดตำแหน่งของวัตถุต่างๆได้
2. ระมัดระวังเรื่องตำแหน่งโฟกัส
การโฟกัสเป็นปัญหาอย่างหนึ่งของการถ่ายวีดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยกล้องวีดีโอในโทรศัพท์จะทำการโฟกัสตำแหน่งวัตถุที่จะถ่ายไว้ แต่ถ้าวัตถุมีการเคลื่อนที่ กล้องถ่ายวีดีโอในมือถือจะไม่สามารถตามโฟกัสได้ทัน ซึ่งจะส่งผลให้ภาพที่ได้เบลอ ถ้าวัตถุเคลื่อนที่ในแนวนอนจะเกิดปัญหาการหลุดโฟกัสน้อยกว่าวัตถุเคลื่อนที่เข้าหาหรือเคลื่นที่ถอยหลังออกไปจากกล้อง
3. หลีกเลี่ยงการซูมโดยเด็ดขาด
ปกติการซูมจะมี 2 ประเภท คือ Optical zoom และ Digital Zoom กล้องถ่ายวีดีโอทั่วๆไปจะใช้ระบบ Optical Zoom คือ การซูมโดยใช้คุณสมบัติของเลนส์ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพที่ได้มีคุณภาพดีกว่า Digital Zoom ซึ่งเป็นการซูมโดยการขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น ทำให้ภาพที่ได้มีคุณภาพลดลง กล้องถ่ายวีดดีโอในโทรศัพท์มือถือใช้ระบบ Digital zoom ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงการซูม ให้ใช้วิธีเดินเข้าไปหาวัตถุที่จะถ่ายแทน
4. ยืนให้นิ่ง จับให้มั่นก่อนถ่าย
เนื่องมาจากว่าโทรศัพท์มือถือมีขนาดเล็ก ส่งผลให้ขณะกำลังถ่ายวีดีโอมีโอกาสเกิดการสั่นไหวของวีดีโอสูง ทำให้ภาพที่ได้เกิดการเบลอวีธีการจับโทรศัพท์มือถือเพื่อถ่ายวีดีโอที่ดีที่สุด คือ การจับด้วยมือทั้งสองมือโดยให้ข้อศอกแนบลำตัว ขาทั้งสองข้างกางออกเล็กน้อยเพื่อความมั่นคง และความต่อเนื่องในการหมุนแพน

แนะนำอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นในการถ่ายวิดีโอ

แนะนำอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นในการถ่ายวีดีโอ

              ในการรับถ่ายวิดีโอกิจกรรมต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด การออกไปเที่ยวต่างจังหวัด นอกเหนือไปจากกล้องถ่ายวีดีโอที่จำเป็นจะต้องเตรียมไปแล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆที่มีความจำเป็นที่เราควรจะต้องเตรียมไปด้วย เพื่อความสะดวกในการถ่ายวีดีโอ เช่น แบตเตอรี่เสริม เมมโมรี่การ์ด อุปกรณ์เพื่อช่วยเพิ่มสีสันให้กับการถ่ายวีดีโอ เช่น Steadicam, Gorillapod อุปกรณ์เพื่อช่วยป้องกันกล้องวีดีโอ เช่น กระเป๋าใส่กล้องวีดีโอ เลนส์ Filter Protect เรามาลองดูกันดีกว่าครับว่ามีอุปกรณ์ถ่ายวีดีโออะไรบ้างที่เราจำเป็นต้องเตรียมไว้ในการรับถ่ายวีดีโองานต่างๆครับ
               อุปกรณ์เสริมต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราหาซื้อได้ทั่วไปครับ โดยเราอาจจะซื้อส่วนที่มีความจำเป็นสำหรับงานของเราก่อนก็ได้ครับ สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด โดยผมจะเรียงอุปกรณ์เสริมที่มีความจำเป็นมากที่สุดเรียงตามลำดับครับ
1. แบตเตอรี่เสริม (Battery)
ผมให้ความสำคัญมากเป็นอันดับ 1 ครับ ปกติเมื่อเราซื้อกล้องถ่ายวีดีโอมาใหม่ จะมีแบตเตอรี่แถมมาให้ด้วยครับ แต่จะป็นแบตเตอรี่ที่มีระยะเวลาการใช้งานค่อนข้างน้อยครับประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเราออกไปรับถ่ายวีดีโองานจริงๆจะไม่เพียงพอต่อความต้องการแน่นอนครับ จากประสบการณ์การทำงานของผมควรจะมีแบตเตอรี่อย่างน้อย 3 ก้อนครับ ก้อนใหญ่ 1 ก้อนและอื่นๆอีก 2 ก้อน วิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่ก็มีให้เลือก 2 แบบครับ คือ แบตเตอรี่แท้และแบตเตอรี่เทียบเท่า (ของปลอมนั่นเองครับ) ซึ่งทั้ง 2 แบบที่ความจุกระแสเดียวกันจะมีราคาต่างกันพอสมควรเลยครับ ผมขอแนะนำว่าควรใช้แบตเตอรี่ก้อนใหญ่แบบของแท้ครับ โดยเราอาจจะใช้ของแท้ซัก 2 ก้อนของเทียบเท่าอีกซัก 1 ก้อนครับ แบตเตอรี่แบบเทียบเท่ามีข้อดี คือ ราคาถูกครับ แต่ข้อเสียของมันก็คือ เวลาใช้งานแบตเตอรี่จะหมดเร็วกว่าปกติครับ และบางทีอาจจะเกิดปัญหาที่เรียกว่า memory effect คือ เมื่อใส่แบตเตอรี่เข้าไปกล้องถ่ายวีดีโอจะขึ้นฟ้องเลยว่าไม่รู้จักแบตก้อนนี้ครับ และไม่ยอมทำงานต่อ เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อแบตเตอรี่แบบเทียบเท่าควรจะเลือกซื้อจากเจ้าที่มีการ review สินค้าจากผู้ใช้คนอื่นครับ และควรจะมีการรับประกันสินค้าด้วยครับ
2. อุปกรณ์บันทึกข้อมูล (Media)
กล้องถ่ายวีดีโอมีวิธีการเก็บบันทึกข้อมูลหลายประเภททั้งบันทึกข้อมูลด้วยเทป Mini DV, ฮาร์ดดิสก์, Memory Card หรือกล้องถ่ายวีดีโอบางรุ่นมีลักษณะแบบไฮบริดนั่นคือ สามารถบันทึกได้ทั้งในฮาร์ดดิสก์ในตัวเครื่องและสามารถบันทึกข้อมูลจาก Memory card ภายนอกได้ ซึ่งเราจะต้องศึกษาดูว่ากล้องถ่ายวีดีโอของเราใช้รูปแบบการบันทึกข้อมูลแบบไหน สามารถบันทึกในโหมดต่างๆได้ภายในกี่ชั่วโมง ยิ่งเราตั้งค่าการบันทึกวีดีโอที่รายละเอียดสูงๆก็ยิ่งจะทำให้ไฟล์วีดีโอมีขนาดใหญ่ขึ้น ความจุของสื่อที่ใช้บันทึกก็จะเต็มเร็วมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กล้องถ่ายวีดีโอ Panasonic Full HD HS700 ของผม ถ้าบันทึกที่ 50p จะกินพื้นที่ 28 Mbps แต่ถ้าบันทึกแบบ HE จะกินพื้นที่แค่ 5 Mbps
ส่วนกล้องถ่ายวีดีโอที่ใช้เทปบันทึก เวลาออกไปรับถ่ายวีดีโอก็ควรจะเตรียมไปสำรองไว้ซัก 5 ม้วน เผื่อเทปบางม้วนมีปัญหาและเทปม้วนใดที่ใช้แล้ว ไม่ควรใช้ซ้ำอีก เพราะจะทำให้อายุการใช้งานของหัวเทปสั้นลง เรื่องยี่ห้อของม้วนเทปผมเคยลองใช้มาแล้วทั้ง Sony, Panasonic บางเจ้าก็บอกว่ายี่ห้อนี้ดีกว่ายี่ห้อนั้น แต่จากประสบการณ์การทำงานทั้ง 2 ยี่ห้อมีคุณภาพดีพอๆกันครับ เพียงแต่ตอนแกะออกมาใช้งานให้ดูด้วยว่าม้วนเทปตรงส่วนหัวเทป มีร่องรอยการหมุนของเทปหรือไม่ ถ้ามีควรจะเปลี่ยนครับเพราะว่าจะทำให้หัวเทปสึกครับ
3. กระเป๋าใส่กล้องถ่ายวีดีโอ
กระเป๋าที่ใส่กล้องมี 2 แบบครับ คือ แบบ Soft case และแบบ Hard Case ทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปครับ เรามาดูกันเลยดีกว่าครับ
แบบ Soft case มีข้อดี คือ ราคาจะถูกกว่าครับ สามารถใส่อุปกรณ์ได้หลากหลายชนิดครับ เพราะแบ่งเป็นช่องๆในกระเป๋า สามารถใช้ divider แบ่งการเก็บอุปกรณ์ชนิดต่างๆได้ครับ และแบบนี้ยังมีน้ำหนักเบาครับ เหมาะสำหรับการเดินทางไปรับถ่ายวีดีโอตามงาน event ต่างๆครับ และควรเลือกกระเป๋าแบบที่มีที่คลุมกันฝนให้ด้วยครับ เผื่อจะใช้ในเวลาฝนตกครับ ยกตัวอย่างเช่น Kata, Domke  หรืออาจจะใช้กระเป๋าที่แถมมากับกล้องตอนที่ซื้อก็ได้ครับ โดยถ้าเราเริ่มมีอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้นก็ค่อยเปลี่ยนภายหลังได้ครับ
แบบ Hard case มีข้อดี คือ ป้องกันกล้องถ่ายวีดีโอได้สมบูรณ์แบบครับ ทั้งการกระแทก สภาพดินฟ้าอากาศ ความชื้น ซึ่งกระเป๋าแบบ Soft case ไม่สามารถป้องกันได้ครับ แต่ก็มีข้อเสีย คือ มีราคาสูงครับและมีน้ำหนักมากครับ ยกตัวอย่างเช่น Pelican, Lowepro ซึ่งภายในจะมี divider ที่สามารถแบ่งการเก็บอุปกรณ์ตามที่เราต้องการได้
4. เลนส์ Protect
วิธีการป้องกันเลนส์ที่ดีที่สุดขณะใช้งานถ่ายวีดีโอ คือ ควรจะใส่เลนส์ Filter Protect จะเป็นการช่วยป้องกันสิ่งต่างๆที่จะมาทำอันตรายต่อหน้าเลนส์ ไม่ว่าจะเป็นของมีคม ของเหลว ฝุ่นต่างๆ เวลาเลือกซื้อก็ควรจะต้องดูขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางให้มีขนาดเท่ากับหน้าของเลนส์ที่เราใช้ ให้เราดูทีหน้าเลนส์ของกล้องถ่ายวีดีโอจะมีสัญลักษณ์บอกไว้ คือ ตัวโอแล้วมีเส้นผ่านในแนวตั้ง สามารถดูได้จากตามรูป เวลาเกิดอุบัติเหตุกับเลนส์เราก็แค่เปลี่ยน Filter Protect อันใหม่ก็สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม
5. ขาตั้งกล้อง (Tripod)
ควรเลือกขาตั้งกล้องให้มีความเหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักของกล้องถ่ายวีดีโอ โดยพิจารณาจากสเปกของขาตั้งกล้อง โดยวิธีการเลือกซื้อขาตั้งกล้องสามารถได้จากบทก่อนๆ  ขาตั้งกล้องมีประโยชน์ในการถ่ายวีดีโอ ทำให้ภาพที่ได้มีความชัดเจน ไม่สั่นไหว เมื่อเราทำการซูมระยะไกลยิ่งจำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง เพราะว่าเมื่อซูมมาก การสั่นไหวก็จะเกิดมากขึ้นด้วย
อุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยเพิ่มสีสันให้กับการถ่ายวีดีโอ
1. Steadicam เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดการสั่นไหวของกล้องถ่ายวีดีโอ ในขณะที่มีการเคลื่อนที่ของกล้อง การใช้ Steadicam จะต้องมีการฝึกฝนการใช้งาน เพื่อที่จะทำให้ได้ภาพที่ออกมามีการสั่นไหวน้อยที่สุด การเดินถ่ายวีดีโอด้วย Steadicam จะทำให้เกิดมิติของภาพมากขึ้น ดูแล้วน่าตื่นเต้นกว่าการใช้วิธีการซูมแบบทั่วๆไป
2. Gorillapod เป็นขาตั้งกล้องชนิดหนึ่งที่เอาไว้ช่วยถ่ายในมุมต่ำ และในมุมที่แตกต่างจากขาตั้งกล้องทั่วไป โดยที่ขาแต่ละข้างสามารถปรับงอได้ตามสะดวก สามารถเอาไว้รัดเกาะเกี่ยวไปกับสิ่งต่างๆได้ จึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มสีสันในการถ่ายวีดีโอได้เป็นอย่างดี
อุปกรณ์เสริมที่จำเป็นในการรับถ่ายวิดีโองานต่างๆก็มีประมาณนี้ครับ ซึ่งเราควรจะเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนการใช้งานครับ โดยจะต้องเช็คแบตเตอรี่ว่าชาร์จเต็มแล้วหรือยัง  ฮาร์ดดิสก์พอที่จะเก็บข้อมูลหรือไม่ ม้วนเทปมีสำรองใช้หรือเปล่า ขาตั้งกล้องสามารถรับน้ำหนักกล้องวีดีโอของเราพร้อมอุปกรณ์เสริมได้ไหม ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เมื่อเรามีประสบการณ์ในการรับถ่ายวีดีโอแล้ว จะเป็นสิ่งที่เราทำเป็นกิจวัตรก่อนที่เราจะออกไปถ่ายวีดีโอทุกๆงาน